7 เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจให้ดีขึ้น
การฝึกตนเองให้กล้าตัดสินใจ เป็นทักษะที่สำคัญอย่างหนึ่งในการทำงาน
คนที่มีทักษะในการตัดสินใจที่ดี จะสะท้อนถึงภาวะผู้นำและความเป็นมืออาชีพ การฝึกฝนให้ตนเองมีการตัดสินใจที่ดีขึ้น จะส่งผลกระทบทางบวกต่อตัวเรา ต่อเพื่อนร่วมงาน และต่อองค์กร
เทคนิคที่สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการตัดสินใจให้ดีขึ้นนั้น มีด้วยกัน 7 เทคนิค ดังนี้
1. สำรวจบุคลิกภาพ และคุณลักษณะของตนเอง
สิ่งแรกที่พึงกระทำก่อน คือ การเข้าใจถึงบุคลิกภาพและการแสดงออกของตัวเรา ว่าเรามีลักษณะเป็นคนอย่างไร เพราะคุณลักษณะที่อยู่ในตัวเรานั้น ส่งผลต่อความสามารถในการตัดสินใจ
- คนที่มีความมั่นใจสูง: คนกลุ่มนี้เป็นคนกล้าตัดสินใจ เพราะเชื่อว่าตนเองมีความรู้ความสามารถมากพอ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของเขาจะดียิ่งขึ้น หากได้ฝึกตนเองให้ฟังความคิดเห็นจากคนรอบข้างเพื่อให้ได้มุมมองทางความคิดที่หลากหลายขึ้น เมื่อนำมาประกอบกับความรู้ความสามารถที่มีอยู่เดิม จะช่วยทำให้การตัดสินใจนั้นรอบคอบ-รอบด้านมากขึ้นกว่าการใช้ความรู้ความสามารถของตนเองเพียงอย่างเดียว
- คนที่กล้าเสี่ยง: คนกลุ่มนี้จะตัดสินใจเร็ว ไม่กลัวไม่กังวลอะไร เสี่ยงเป็นเสี่ยง พร้อมชนหากเกิดปัญหา การตัดสินใจจะใช้สัญชาตญาณและประสบการณ์ที่มี คิดเร็ว ตัดสินใจทันที หากคนกลุ่มนี้ ฝึกตนเองชะลอความเร็วของการตัดสินใจแบบเร่งด่วนให้ช้าลง ใคร่ครวญมากขึ้น ลดระดับการใช้สัญชาตญาณมาเป็นตัวตัดสินในการตัดสินใจ เพื่อลดโอกาสของความผิดพลาดที่เกิดจากการรีบตัดสินใจอย่างเร่งด่วน
- คนที่กังวล: คนกลุ่มนี้จะต่างจากคนที่กล้าเสี่ยง จะใช้เวลาในการหาข้อมูล คิดกลับไปกลับมาหลายรอบ คอยระแวดระวังเพื่อต้องการได้ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด จึงใช้เวลานานในการคิดเพื่อตัดสินใจ และอาจทำให้เสียโอกาสเพราะเสียเวลานานในการหาข้อมูลจนไม่ทันกาลได้ สิ่งที่พึงกระทำ คือ การสรุป วิเคราะห์ ข้อมูล และหากข้อมูลที่ได้มีความอิ่มตัวพอ ให้กล้าเลือกตัดสินใจหรือหากยังไม่กล้าเลือกด้วยตนเอง อาจเรียกกลุ่มทำงานร่วมประชุมและศึกษาข้อมูลที่เตรียมมาเพื่อร่วมด้วยช่วยกันตัดสินใจ
- คนที่เชื่อคนง่าย: คนกลุ่มนี้มีแนวโน้มจะเชื่อหรือฟังคนที่เขารู้สึกดี เชื่อกลุ่มคนที่ตนเองคิดว่าน่าเชื่อถือหรือเป็นพวกเดียวกัน การฟังจึงไม่รอบด้านพอ ทำให้เกิดความลำเอียงหรืออคติในการพิจารณาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ สิ่งที่พึงกระทำ คือ การแสวงหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือ มีความเป็นกลางมาประกอบเพื่อพิจารณาในการตัดสินใจ
เมื่อต้องตัดสินใจให้ตอบตนเองก่อนให้ได้ว่า อะไรคือผลลัพธ์หรือเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดจากการตัดสินใจนี้? เมื่อเรารู้ว่าเป้าหมายที่ต้องการคืออะไร สิ่งนี้จะช่วยให้การเลือกตัวเลือกในแต่ละทางเลือกทำได้ดีกว่า เพราะมีหลักที่จะใช้ยึดเป็นแนวทางในการเลือกว่าจะตัดสินใจอย่างไร
3. ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล
ก่อนที่จะเริ่มค้นข้อมูล เราควรทำความเข้าใจตั้งแต่แรกก่อนว่า
- เหตุใดเราจึงต้องตัดสินใจเรื่องนี้?
- ทางเลือกที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน มีอะไรบ้าง?
- สิ่งใดที่ควรหาข้อมูลเพิ่มเพื่อนำมาใช้ปิดช่องว่าง หรือช่วยสร้างผลลัพธ์ให้ดีขึ้นได้?
เพื่อจะได้มีทิศทางในการหาและการรวบรวมข้อมูล แหล่งข้อมูลสามารถมาทางหลายช่องทาง เช่น ข้อมูลด้านเอกสาร ข้อมูลที่เชื่อถือได้ทางออนไลน์ การขอความรู้จากที่ปรึกษา การประชุมทีม เพื่อร่วมระดมสมองและความคิดเห็น เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มากและอิ่มตัวพอที่จะนำมาใช้สร้างทางเลือกหลาย ๆ ทาง
4. เปิดตา เปิดหู และเปิดใจ
การกล้าเปิดตา: หมั่นสังเกต ค้นคว้า ศึกษา หาข้อมูล
กล้าเปิดหู: รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นโดยเฉพาะความเห็นต่าง
การกล้าเปิดใจ: เปิดรับสิ่งใหม่ ไม่ยึดติดกับความรู้หรือวิธีการแบบเดิม ๆ เพราะสิ่งที่เคยใช้ได้ดีมาก่อนอาจใช้ไม่ได้แล้วในปัจจุบัน
'การเปิดตา เปิดหู เปิดใจ' จะช่วยลดอคติการยืนยันความเชื่อของตนเอง (Confirmation bias) ที่คนเรามักค้นหาและฟังข้อมูลด้านเดียว มาสนับสนุนความเชื่อหรือสมมติฐานที่มี และนำมาเป็นข้อสรุป ทำให้มองไม่รอบด้าน การมีเพื่อนร่วมงานหรือทีมงานมาช่วยกันให้มุมมองอย่างรอบด้าน ในแต่ละทางเลือกจะช่วยให้เราเปิดรับข้อมูลได้อย่างรอบด้านมากขึ้น
5. จินตภาพฉากทัศน์แบบต่าง ๆ
การทดลองจินตภาพฉากทัศน์แต่ละฉากทัศน์ที่จะเกิดขึ้นได้ในแต่ละทางเลือก จะช่วยทำให้การตัดสินใจทำได้ดีและรอบคอบขึ้น ขณะที่จินตภาพให้พิจารณามองรอบด้านทั้งด้านบวกและด้านลบที่อาจเกิดขึ้น เพื่อจะได้ชั่งน้ำหนักว่าทางเลือกไหนจะเป็นคำตอบที่ดีมากกว่ากัน โดยค่อย ๆ ตัดทางเลือกที่มีประสิทธิภาพน้อยที่สุดออกไปทีละทางเลือก
6. มีแผนสำรองไว้
ทางเลือกอื่น ๆ ที่เราไม่ได้นำมาใช้อาจเป็นประโยชน์กับเราได้ในภายภาคหน้า หากเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ไม่มีทางเลือกใดที่ดีที่สุดแบบไม่มีที่ติ เมื่อได้เริ่มลงมือกระทำจริง ๆ ในระหว่างทางอาจจะเกิดความท้าทาย อุปสรรค หรือสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทางเลือกอื่น ๆ ที่มีอาจสามารถนำมาใช้เป็นกำลังเสริม หรือเป็นแผนสอง สาม สี่ เพื่อปรับให้เข้ากับสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น หรืออาจนำมาบูรณาการเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเป็นทางเลือกใหม่ที่จะทำมาใช้ได้
7. พร้อมรับผลที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจ
การตัดสินใจเป็น การเลือก ที่เราเชื่อว่าสิ่งที่เราเลือกจะเป็นคำตอบที่ ใช่ ที่สุด อย่างไรก็ตาม เมื่อนำไปใช้ในสถานการณ์จริง สิ่งที่เราเลือกอาจไม่ใช่คำตอบที่ดี เกิดความผิดพลาดขึ้นได้ หากผลลัพธ์ไม่ได้เป็นไปตามดั่งใจหวังหรือดังปรารถนาไว้ ย่อมทำให้เกิดความรู้สึกทางลบเกิดขึ้นมา ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้เป็นความรู้สึกที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อสิ่งที่คาดหวังไว้ ไม่เป็นไปตามคาด สิ่งที่เราพึ่งกระทำคือรับรู้และอยู่กับความรู้สึกนั้น จากนั้นค่อย ๆ ตั้งสติ บอกตัวเองว่า เราเป็นคนเลือกทางเลือกนี้ในการตัดสินใจ แม้จะไม่ประสบผลสำเร็จดังหวังแต่เราเรียนรู้จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้นได้ เพื่อครั้งหน้าจะได้คิดให้รอบคอบในปัจจัยที่เราไม่ได้คำนึงถึง หรือเรียนรู้ว่าความซับซ้อนที่ซ่อนอยู่ที่เรามองไม่เห็นหรือมองข้ามไปคือเรื่องใด เพื่อเราจะได้พัฒนาการตัดสินใจให้ดีขึ้นในคราวต่อไป ..
ลองทำตามเทคนิคทั้ง 7 ข้อนี้ดู เพื่อเสริมทักษะการตัดสินใจของเรานั้นให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น หรือใครมีประสบการณ์ในข้อใด สามารถเขียนเล่าประสบการณ์เพื่อแบ่งปันกันใน comment ได้เช่นกันนะคะ
---
Author
ผศ.ดร.จิตรา ดุษฏีเมธา
อาจารย์มหาวิทยาลัย
นักจิตวิทยา
Senior Action Learning Coach
TPS Master Facilitator
Artwork
จุฑามาศ ใจสมัคร