ความสุข vs ผลงาน: ความสมดุลที่ทีมยุคใหม่ต้องให้ความสำคัญ

ทำไมความสุขจึงสำคัญไม่น้อยไปกว่าผลงาน?

1. ความสุขช่วยเพิ่ม Productivity
สมาชิกที่มีความสุข จิตใจจะมีความรู้สึกปลอดภัย มั่นคง สามารถโฟกัสกับการทำงานมากขึ้นและพร้อมเผชิญกับความท้าทาย มีผลวิจัยระดับหน่วยงานหลายแห่งที่ระบุว่าความสุขมีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างชัดเจน

2. ลดความเครียดและอัตราการลาออก
เมื่อสมาชิกในทีมรู้สึกมีความสุขและได้รับการดูแลที่ดี พวกเขาจะมีความยืดหยุ่นทางอารมณ์และรับมือกับความเครียดได้ดีกว่าทีมที่เน้นเพียงผลงาน อาจประสบปัญหาการลาออกสูง เพราะความเหนื่อยล้าสะสม 

จะเป็นอย่างไรถ้าไม่ทำให้สมดุล?

• เมื่อเน้นความสุขมากไป: ทีมที่เน้นความสุขมากเกินไปมักจะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและมีความอดทนสูงกับความไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้หลายครั้งทีมขาดเป้าหมายที่ชัดเจนหรือไม่กระตือรือร้นต่อความท้าทาย ส่งผลให้ผลงานไม่ถึงมาตรฐาน ขาดความคิดสร้างสรรค์ ไม่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงภายนอก

• เมื่อเน้นผลงานมากไป: ทีมให้ความสำคัญกับเป้าหมายและตัวชี้วัด บางครั้งมีการแข่งขันกันเองภายในหรือขาดการสนับสนุนกัน เพราะมุ่งเน้นแต่หน้าที่ ความรับผิดชอบ และความสำเร็จของตนเอง สมาชิกในทีมอาจรู้สึกกดดันและหมดไฟ ได้ผลงานดีในระยะสั้น แต่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของทีมในระยะยาว

ทางออกของทีมในโลกการทำงานปัจจุบัน

ในบริบทโลกปัจจุบัน ภาวะที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจากเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดและวิกฤตสุขภาพจิตที่เพิ่มขึ้น การรักษาความสมดุลระหว่างผลงานและความสุขจึงมีความสำคัญ องค์กรที่ตระหนักถึงเรื่องนี้จะช่วยให้ทีมทำงานได้ดี สามารถรักษาทีมที่มีประสิทธิภาพเอาไว้ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันขององค์กรเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนในระยะยาว