แชร์

Empathic Communication มากกว่าเข้าใจคือเข้าไปถึงใจ 

อัพเดทล่าสุด: 6 ธ.ค. 2024
314 ผู้เข้าชม
Empathic Communication หรือการสื่อสารด้วยความเข้าอกเข้าใจ หมายถึง การสื่อสารที่ผู้พูดสามารถเข้าใจความรู้สึก ความต้องการ และมุมมองของผู้ฟังอย่างลึกซึ้ง ผ่านการเปิดใจ ฟังอย่างตั้งใจ และเชื่อมโยงกับความรู้สึกของอีกฝ่าย การสื่อสารแบบนี้ไม่ได้เพียงแค่พูดหรือฟัง แต่เป็นการสร้างพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายรู้สึกว่าได้รับการยอมรับและเคารพซึ่งกันและกัน

ถ้าคนในทีมสามารถสื่อสารด้วยความเข้าอกเข้าใจกันได้ดี จะส่งผลให้สามารถสร้างความไว้วางใจและความผูกพัน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ช่วยลดความขัดแย้งในความสัมพันธ์ สนับสนุนการสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพและวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งในองค์กร

แม้ว่าการสื่อสารด้วยความเข้าอกเข้าใจ จะเป็นทักษะที่สำคัญ แต่บ่อยครั้งที่เราสื่อสารโดยขาด ความเข้าอกเข้าใจ โดยไม่รู้ตัว ตัวอย่างสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เช่น
  • ความเร่งรีบหรือความเครียด เมื่อเราต้องทำงานภายใต้แรงกดดัน และอาจเผลอตัดบทสนทนาและไม่ใส่ใจกับความรู้สึกของผู้อื่น
  • การด่วนตีความจากมุมมองของตัวเองและไม่พยายามเข้าใจมุมมองของอีกฝ่าย
  • การโฟกัสที่เป้าหมายมากเกินไป เช่น การพยายามผลักดันให้งานสำเร็จจนลืมคำนึงถึงความรู้สึกหรือแรงจูงใจของผู้ที่เกี่ยวข้อง
  • การใช้คำพูดที่ตัดสิน เช่น การวิจารณ์หรือการตั้งคำถามที่ทำให้คู่สนทนารู้สึกถูกโจมตี

ซึ่งถ้าเราขาดการตระหนักรู้ และปล่อยให้การสื่อสารขาดความเข้าอกเข้าใจอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในทีมเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ และแน่นอนว่าจะส่งผลเสียอีกมากมายตามมา ไม่ว่าจะเป็นด้านความสัมพันธ์ ผลลัพธ์ในงาน หรือประสิทธิภาพของทีม

เราสามารถเริ่มจากการตระหนักรู้ และฝึกการสื่อสารความเข้าอกเข้าใจ (empathic Communication) ด้วย 3 ขั้นตอนดังนี้

1. Pay Attention (ตั้งใจฟัง) 

ตั้งใจฟังเนื้อหาอย่างแท้จริง ไม่ขัดจังหวะหรือเตรียมโต้ตอบ
ใช้การแสดงออกทางกาย เช่น การสบตา การพยักหน้า หรือการแสดงความสนใจผ่านท่าทาง

2. Observe (การสังเกต) 

สังเกตน้ำเสียง ท่าทาง และอารมณ์ที่ผู้พูดแสดงออก
ใส่ใจในสิ่งที่ไม่ได้พูดออกมา เช่น ความเงียบ การถอนหายใจ หรือสีหน้าที่เปลี่ยนไป

3. Empathize (การเข้าอกเข้าใจ)

แสดงความเข้าใจด้วยการสะท้อนผ่านคำพูด เช่น ฉันเข้าใจว่าคุณรู้สึกอย่างไร หรือ ฉันเห็นว่าสิ่งนี้สำคัญสำหรับคุณ
ตั้งคำถามเพื่อขยายความ เช่น คุณช่วยเล่าเพิ่มเติมได้ไหม? หรือ สิ่งนี้ส่งผลต่อคุณอย่างไร?
หลีกเลี่ยงการตัดสิน ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยกับอีกฝ่ายหรือไม่
เพิ่มความเข้าใจในการสื่อสารที่มีแค่ I กับ You เปลี่ยนเป็น We เช่น จาก I กับ You

ฉันไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหา

คุณควรฟังฉันให้ดีกว่านี้

เป็น We หรือการสร้างความรู้สึกของความร่วมมือ เช่น

เรามาช่วยกันหาวิธีแก้ปัญหานี้ดีกว่า

มีอะไรที่เราจะปรับเปลี่ยนเพื่อแก้ปัญหานี้ได้บ้าง

เมื่อใช้คำว่า We เราสร้างความรู้สึกว่าเป็นทีมเดียวกัน ซึ่งช่วยลดความขัดแย้งและเพิ่มโอกาสในการหาทางออกที่สร้างสรรค์
การผสมผสาน Pay Attention Observe และ Empathize จะทำให้การสื่อสารเต็มไปด้วยความเข้าใจและเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งขึ้น

Empathic Communication ไม่ใช่เพียงแค่การสื่อสารเพื่อถ่ายทอดข้อมูล แต่เป็นการเชื่อมโยงระหว่างผู้คนด้วยความเข้าใจและความเห็นใจ การหลีกเลี่ยงการสื่อสารที่ขาด Empathy และพัฒนาแนวทางที่ใช้ We รวมถึงการสื่อสารผ่านการตั้งใจฟัง การสังเกต และการเข้าอกเข้าใจ จะช่วยให้เราสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและเผชิญหน้ากับความท้าทายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลองใช้ Empathic Communication ในทุกการสนทนา เพราะนี่อาจเป็นกุญแจที่ช่วยเปลี่ยนความขัดแย้งให้เป็นความร่วมมือ และเปลี่ยนความไม่เข้าใจให้เป็นโอกาสแห่งความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้น 


 Author

ยุ่ง ศริยา ประวงษ์ ร่วมกับ ChatGPT
People & Culture Transformation Consultant
Action Learning Coach
Team Psychological Safety Facilitator

  Artwork: Jutha.J


บทความที่เกี่ยวข้อง
4 วิธีดูแลสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
แม้สุขภาพจิตของพนักงานจะเป็นปัจจัยที่สำคัญแต่ยังมีหลายองค์กรที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างเพียงพอ ปัญหาความเครียด การหมดไฟในการทำงาน และภาวะซึมเศร้า กำลังกลายเป็นความท้าทายที่องค์กรต้องเผชิญ การให้การสนับสนุนด้านสุขภาพจิตไม่เพียงช่วยให้พนักงานมีความสุขในการทำงานมากขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรโดยรวม ดังนั้น องค์กรควรพิจารณาแนวทางที่สามารถนำไปใช้ได้จริง เพื่อดูแลสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
31 ม.ค. 2025
ดูแลสุขภาพจิตของพนักงาน สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
การดูแลสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ของพนักงานไม่ใช่เพียงแค่การดูแล "คน" แต่เป็นการลงทุนที่ช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืนในทุกด้าน เมื่อพนักงานมีสุขภาพจิตและกายที่ดี องค์กรจะได้ทีมงานที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในระยะยาวขององค์กร
31 ม.ค. 2025
ขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ ให้ความต่างสร้างการเติบโต
เมื่อพูดถึงความขัดแย้ง คนส่วนใหญ่มักเลือกที่จะหลีกเลี่ยง เพราะคิดว่าจะนำไปสู่ความไม่พอใจ แตกแยก หรือสูญเสีย แต่ในความเป็นจริง ความขัดแย้งไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้ายเสมอไป หากเราสามารถจัดการและใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างเหมาะสม ความขัดแย้งอาจกลายเป็นตัวกระตุ้นที่นำไปสู่การพัฒนา การสร้างนวัตกรรม และการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในทีมได้
31 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy